[Mar 2014]

Day 1 : San Juan to Fajardo

Day 2 : Isla de Culebra / El Yunque National Forest

Day 3 : Ponce / Camuy River Cave Park

Day 4 : Old San Juan

 

เราได้ไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งในทะเลคาริบเบี้ยน ชื่อว่า “เปอร์โตริโก” (Puerto Rico)  หลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อประเทศนี้จาก การประกวดนางงามระดับโลกในหลายๆเวที ที่มักจะมีนางงามจากประเทศเข้าในรอบลึกๆเสมอ

เปอร์โตริโก เป็นดินแดนเกาะในเครือรัฐของสหรัฐอเมริกาที่มิได้มีฐานะเป็นรัฐ คือ…ไม่ถือว่า 1 ใน 50 รัฐ (state) ของอเมริกา ประมาณเหมือน…เขตปกครองพิเศษ มีภาษาราชการ คือ 1.ภาษาสเปน 2.ภาษาอังกฤษ ในปี 1509 สเปนเข้ามายึดครองเกาะเปอร์โตริโก จนกระทั่งถึงปี 1898 จึงถูกยกให้สหรัฐอเมริกาหลังจากสเปนแพ้สงครามสเปน-สหรัฐอเมริกา

การเดินเข้าเปอร์โตริโกต้องใช้วีซ่าอเมริกา ส่วนเรา…ด้วยความที่มีวีซ่านักเรียนของอเมริกาอยู่แล้ว จึงสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวเปอร์โตริโกได้เลย โดยไม่ต้องทำวีซ่าหรือยื่นเอกสารเพิ่มเติม ใครมีโอกาสไปเที่ยวอเมริกา อาจจะลองวางแผนไปเที่ยวที่นี่ดูได้นะคะ เพราะไหนๆก็มีวีซ่าอเมริกาแล้ว

ทริปนี้เราวางแผนไว้ 4 วัน 3 คืน โดยจะเป็น Road Trip เช่ารถขับเที่ยวรอบเกาะ มีเพื่อนร่วมทริปรวมเราด้วยทั้งหมดก็ 3 คน เราเริ่มการเดินทางจาก Raleigh, North Carolina (เนื่องจากเราเรียนที่ North Carolina State University) บินไปเจอเพื่อนคนไทยอีกคนที่ Atlanta ก่อนจะบินจาก Atlanta ไป San Juan (อ่านว่า ซาน ฮวน – ภาษาสเปนจะออกเสียงตัว J, จ เป็นตัว H, ฮ) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเปอร์โตริโก

ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน จะผ่านหมู่เกาะบาฮามาส (The Bahamas) มองจากเครื่องบินลงไปในทะเล สวยมากกกกก สีน้ำสวยมากกกจริงๆ

 

หลังจากมาถึงสนามบิน เราก็จัดแจงเรื่องการเช่ารถ จากนั้นก็ขับจากเมือง San Juan ไปเมือง Fajardo (ฟาฮาโด) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆทางฝั่งตะวันออกของเกาะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ที่เปอร์โตริโกมีร้านและแฟรนไชส์จากอเมริกาเยอะเลย เพียงแต่เป็นภาษาสเปน

สภาพบ้านเมืองระหว่างทางจะเป็นแบบ Tropical (เมืองเขตร้อน) คล้ายๆเมืองไทย

พอถึง Fajardo เราเข้า check in ที่ Hostel ก่อนเลย คืนนี้เราพักที่ Moon Light Bay Hostel

Moon Light Bay Hostel

สำหรับอาหารเย็น เราสุ่มเลือกเอาจากร้านในแถบนั้น จนเจอร้านหนึ่งที่น่าสนใจ ชื่อว่าร้าน La Estación (The Station)  แล้วก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องลองสั่งอาหารเปอร์โต้ริโก มีหลายจานที่น่าสนใจ อย่างเช่น สลัดยำยอดมะพร้าว, สเต็กหมู(ย่างแบบเกรียมม๊ากมาก)กับอะโวคาโด แล้วก็อีกจานที่โดดเด่นมาก เพราะเขาเสิร์ฟมาให้ครกเล็กๆ ชื่อว่า “Mofondo” เป็นอาหาร Afro-Puerti Rican (แอฟริกัน + เปอร์โตริกัน) เนื่องจากสมัยก่อนที่มีการค้าทาส มีชาวแอฟริกันตะวันตกเข้ามาอาศัยที่นี่กันมาก ส่วนผสมในจานนี้ดูมีหลายอย่างมาก เช่น กุ้ง, ยอดมะพร้าว, กล้วย, ผัก ฯลฯ (อารมณ์คล้ายๆห่อหมกยังไม่รู้) รสชาติ tropical มาก…(รสชาติคล้ายอาหารไทยเหมือนกันนะ)  ส่วนเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้เล้ยยย ถ้ามาที่นี่ นั่นคือ  “Piña Colada” (ปิย่า โคลาดา) ที่ถือเป็น Cocktail แห่งชาติของที่นี่เลยทีเดียว มีส่วนผสมของ เหล้ารัม, กะทิ หรือ น้ำมะพร้าว และ น้ำสัปปะรด (Piña แปลว่า สัปปะรด) ผสมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

จากนั้นเราไปทัวร์ kayak – Bioluminescent Bay หรือที่เรียกกันว่า Bio Bay ที่ Laguna Grande (Big Lagoon) ใน Fajardo ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Life of Pi จะมีตอนที่เกิดปรากฎการณ์ทะเลเรืองแสง อยากจะบอกว่า…มีในชีวิตจริง! Bio Bay เกิดจากสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลมีสารเคมีเรืองแสง ได้ปล่อยพลังงานของปฎิกิริยาเคมีออกมาจนทำให้เกิดแสง ซึ่งมันสุดยอดมาก เพราะพอเราเอามือหรือไม้พายไปกวนในน้ำ เราจะเหมือนไปรบกวนกระตุ้นสิ่งชีวิตในน้ำให้เรืองแสงออกมา เหมือนในหนังเลยยย ประทับใจมากก  Bio Bay ที่เปอร์โตริโก้มีทั้งหมดมี 3 แห่งที่

1. Mosquito Bay, Vieques ที่นี่สว่างที่สุด

2. Laguna Grande , Fajardo

3.  La Parguera, Lajas

(รูปนี้จากในเนต)

 

วันที่ 2 ของการเดินทาง

วันนี้เราจะข้ามไปเกาะกัน ที่เปอร์โตริโกมีเกาะใหญ่ๆ 3 เกาะ คือ 1. คูเลบรา (Isla de Culebra)  2. โมนา (Isla de Mona)  3. เบียเกซ (Isla de Vieques)  วันนี้เราจะนั่งเรือ Ferry ข้ามจาก Fajardo ไปเกาะคูเลบรา (Culebra) เรานั่งเรือรอบเช้าและกลับในรอบบ่าย

ท่าเรือที่ Fajardo

หลังจากมาถึง Culebra เราเช่ารถ Jeep เพื่อขับเที่ยวรอบๆเกาะ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างครึมฟ้าครึ้มฝนตลอด เราแวะในหลายๆหาดที่นี่ น้ำทะเลแคริบเบี้ยนสีสวยมาก สีจะต่างจากทะเลไทยตรงที่สีจะน้ำเงินเข้มกว่าหน่อย และน้ำใสมากกเลยย

หลังจากข้ามเรือกลับมาจาก Culebra เราเดินทางต่อทันที จากเมือง Fajardo ไปเมือง Ponce โดยระหว่างทางเราแวะเที่ยวที่ El Yunque National Forest ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติกลางเกาะด้านตะวันออก

ดื่มด่ำความเขียวชะอุ่มที่ El Yunque National Forest

ที่ El Yunque จะเหมือนเราหลุดเข้ามาอยู่ในยุคจูราสสิก เพราะพืชพันธุ์ไม้เป็นแนว tropical ที่มีต้นเฟิร์นขนาดใหญ่อยู่เยอะมาก เขียวชะอุ่มมากๆ นึกถึงหนังเรื่องจูราสสิกปาร์คทันที ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายทำในแถบอเมริกากลาง (เช่น คอสตาริก้า) ซึ่งภูมิประเทศ และภูมิอากาศใกล้เคียงกับที่นี่

จาก El Yunque เราเดินทางต่อไปที่เมือง Ponce ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของเกาะ มาถึงก็ค่ำแล้ว คืนนี้พักกันที่ Hotel Belgica โรงแรมตกแต่งน่ารักดี สไตล์สเปนยุคล่าอาณานิคม

 

เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง

เราออกสำรวจเมือง Ponce  เขารักษาสถาปัตยกรรมในยุคที่สเปนมาปกครองได้ดีทีเดียว

หลังจากเดินจนหน่ำใจในช่วงเช้า เราต้องออกเดินทางต่อไป Camuy River Cave Park อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เราต้องใช้เวลาเดินทางจาก Ponce ไป Camuy Cave ประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ถึง 2 ชม. ซึ่งถ้ำนี้ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของ Underground River ในโลกเลย เมื่อจ่ายเงินค่าเข้าแล้ว เขาจะมีรถพานำชม และ มีไกด์พาเราเดินเข้าไปในถ้ำเป็นกรุ๊ปๆ

Camuy River Cave Park

จากนั้นเราเดินทางกลับไป San Juan  คืนนี้พักที่ Sandy Beach Hotel

วันสุดท้ายของทริป เราตะลุยเที่ยว Old San Juan กัน  ปัจจุบัน San Juan เป็นท่าเรือที่สำคัญ อยู่ทางเหนือของเกาะ สถาปัตยกรรมในเมือง San Juan มีความหลากหลาย ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากสเปน  การเที่ยวใน Old San Juan นั้นไม่ยาก เราสามารถเดินถึงกันได้หมด สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น

1. Castillo San Felipe del Morro (Morro Castle) ซึ่งเป็นป้อมปราการสเปนที่เก่าแก่ที่สุดในแถบนี้ (The Oldest Spanish Fort in the New World – New World ในที่นี้หมายถึงทวีปอเมริกา) สร้างในปี 1539 โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยเมื่อปี 1983

2. Cementerio Santa María Magdalena de Pazzis (San Juan Cemetery) เป็นที่ฝังศพในยุคโคโลเนียล สร้างในปี 1863 อยู่ใกล้ๆกับ Castillo San Felipe del Morro (Morro Castle)

3. Plaza de Armas (Main Squares) จตุรัสเล็กๆใน Old San Juan มีร้านค้า ร้านอาหาร หลากหลายให้ได้เดินช๊อปและชิม

นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีก เช่น Fuerte San Cristobal (San Juan’s Second Fort), Museo de San Juan, Paseo de la Princess, Museo de las America และสถานที่อื่นๆอีกมากมาย

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆใน Old San Juan

 

---

¨คุณล่ะ คิดยังไง? ใช้พื้นที่คอมเม้นต์ด้านล่าง แชร์ประสบการณ์ หรือ คำแนะนำ ของคุณในหัวข้อนี้¨