Journey Addict
Promote Your Page Too Follow Me on Facebook for More Adventures
ติดตามการเดินทางของเราได้ที่ : https://www.facebook.com/journeyaddict/
Day 7 (July15,2013) – Crossing the border to Ometepe, Nicaragua
Day 8 (July16,2013) – Isla de Ometepe, Nicaragua
Day 9 (July17,2013) – Granada, Nicaragua
Day 10 (July18,2013) – Day tour, Nicaragua
Day 11 (July19,2013) – The only one Volcano Boarding in the world, Nicaragua
Day 12 (July20,2013) – On the beach all day all night, Nicaragua
Day 7 (July15,2013) – Crossing the border to Ometepe, Nicaragua
เช้าวันนี้รูมเมทมาปลุกตอน 6 โมงกว่า
กินเหล้ากันยันเช้าเลยที่เดียว
พอ 8am รถมารับ วันนี้เราต้องเดินทางโดยรถ 5 ชม.
ข้ามด่าน จากนั้นต่อด้วยเรืออีก 45 นาที ต่อด้วยรถอีกเล็กน้อย
กว่าไปถึงที่พักบนเกาะภูเขาไฟกลางทะเลสาบ ชื่อเมือง Ometepe
บนรถทุกคนสลบไสลกันหมด เนื่องจาก drink กันยันเช้าเมื่อคืน
นอนกันระเนระนาด ช่องทางเดินบนรถตู้ก็ยังนอน ฮาา
สำหรับเรื่องวีซ่า :
Costa Rica และเม็กซิโก ไม่ต้องทำวีซ่าท่องเที่ยว
ถ้ามี US student visa
(เม็กซิโกเคยยกเลิกกฏนี้ไปรอบนึง แล้วก็กลับมาใช้ใหม่อีกรอบ)
สำหรับประเทศอื่นๆ อย่าง Nicaragua, Hondurus,Guatemala, El Salvador
สามารถทำ visa CA-4 ในครั้งเดียวได้ เลยไปทำที่ DC
ส่วน Belize ก็ทำที่ DC เหมือนกัน
รวมค่าทำวีซ่าทั้งหมดก็หลายบาทอยู่ และต้องเสียค่าธรรมเนียม
ตอนผ่านด่านอีกรอบ
ส่วนชาวอเมริกันส่วนใหญ่มาแถบนี้สบาย ไม่ต้องทำวีซ่า
อ่านเพิ่มเติม :
รวม LINK การทำวีซ่าประเทศต่างๆ สำหรับพาสปอร์ตไทย (Links for Visa – Thai Passport Holder)
จากนั้นเดินข้ามจากด่าน Costa Rica มา ด่าน Nicaragua
อากาศร้อนมากกก เหงื่อออกทุกรูขุมขน
ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
ข้ามด่านมาต่อรถจากที่ด่านมาท่าเรือข้ามไปเกาะ Ometepe
วันนี้เราจะไปพัก Homestay กับชาวบ้านบนเกาะ
เป็นโครงการ planetara ที่ทาง g adventure ไปร่วมด้วย
พานักท่องเที่ยวมาพัก Homestay แล้วก็มีอาสาสมัคร
ต่างชาติมาช่วยทำโครงการ
จากท่าเรือจะเห็นภูเขาไฟ Volcan Concepcion
บน Isla de Ometepe
ขึ้นเรือ 45 นาที เห็นภูเขาไฟชัดขึ้นแล้ว
ภูเขาไฟที่นี่เขียวมาก ถ้าใครอยากเห็นภูเขาไฟ
ขอแนะนำ Bromo ที่อินโดนีเซีย สวยมาก
(ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่สวยนะ แต่ที่อินโดสวยกว่า)
ภูเขาไฟลูกเล็กชื่อ Volcan Maderas
บนเกาะนี้มีภูเขาไฟสองลูก
อยู่กลางทะเลสาบนิการากัว
และแล้วก็มาถึง Puesta Del Sol
Center ก่อนแยกย้ายไปบ้าน Homestay
ทาง staff มาอธิบายกิจกรรมที่สามารถทำได้พรุ่งนี้
1. ปีนเขา Volcan Concepcion ใช้เวลา 10 ชม.ไปกลับ เริ่ม 5.30am
2. ปีนเขา Volcan Maderas ใช้เวลา 8 ชม. ไปกลับ
3. Ecological tour บนเกาะ
4. หากิจกกรมทำเอง มีจักรยานให้ยืมฟรี มี kayak
ก็เลยเลือกข้อ 4 เพราะคงปีนไม่ไหวแน่นอน
บรรยากาศบนเกาะริมชายหาดดำเนื่องจากเถ้าภูเขาไฟ
เจ้าของ Homestay มารับ ไปบ้านละประมาณ 4 คน
บรรยากาศบ้านชาวนิการากัวบนเกาะ เหมือนกลับมาอยู่ชนบทเมืองไทยอีกครั้ง
ด้วยความที่เป็น tropical country เหมือนกัน
อาหารเย็นวันนี้ เป็นข้าว ไก่ทอด สลัด กล้วยทอด สไตล์ท้องถิ่น
พร้อมด้วยน้ำผลไม้ dragon fruit เราได้ฝึกฝนภาษาสเปนเล็กน้อยกันก่อนนอน
ตอนนี้ภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนภาษาสเปนนี่เลวร้ายกว่า
Day 8 (July16,2013) – Isla de Ometepe, Nicaragua
อาหารเช้าวันนี้เป็น ข้าวผัดถั่ว กล้วยทอด อะโวคาโด และชีสท้องถิ่นทอด
ชีสเค็มหน่อย รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่เขากินข้าวกับชีส เหมือนมันไม่เข้ากัน
ลิ้นคนไทยไม่ชิน อิๆ
แผนที่เกาะ
วันนี้ไปปั่นจักรยานรอบๆเกาะ เพื่อนๆจะไปชายหาด Santo Domingo
ที่ห่างจากที่นี่ประมาณ 1ชม.ครึ่งด้วยการปั่นจักรยาน
ปรากฎว่าปั่นไปได้ 15 นาที เหนื่อยมาก เพราะพื้นเป็นทราย
เลยตัดสินใจไม่ไปชายหาด และปั่นไปทัวร์ในเมืองกับเพื่อนอีกคน
ป้ายระหว่างทาง
ระหว่างทางปั่นเข้าเมือง แวะโรงเรียน เด็กๆกำลังเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน
เด็กกำลังกินข้าวกันอยู่
เด็กน่ารักมาก แต่มีขนมในกระเป๋าคือถุงเดียว เลยให้ไปแค่นั้นเองง่ะ
ตารางสอนหรืออะไรสักอย่าง
ด้านบนเขียนวันจันทร์ถึงศุกร์
เราเจอชาวท้องถิ่นระหว่างทางพาเราเที่ยว
มีไปเจอผลไม้ Mauon ผลเล็กๆสีเขียว ข้างในสีส้ม
เนื้อคล้ายๆพวก ลิ้นจี่ ลำไย ลองกอง
รสชาติหวาน เปรี้ยวหน่อยๆ
รสคล้ายๆพวกเงาะ ลองกอง เถือกๆนั้น
แปลกดี
ส่วนลูกเขียวๆข้างๆชื่อ Chayote
ไว้ใส่กับข้าว กินสดๆไม่ได้
โบสถ์ในเมือง
สามล้อที่นี่ หน้าตาคล้ายๆสามล้ออินเดีย กับอินโดนีเซีย
ไม่รู้ข้ามโลกมาเหมือนกันได้ไง หรือนำเข้ามา?
เมืองก็เรียบง่ายดี เป็นเหมือนเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ
ไกด์ท้องถิ่นวันนี้
ตอนบ่ายพักผ่อนเขียน blog
มีอาสาสมัครมานั่งที่ center นี้บ้าง ส่วนใหญ่เป็นคนแคนาดา
มาสอนภาษาอังกฤษ แล้วก็ช่วยงานบ้าง
(แต่บ่ายนี้ที่นั่งดูก็ไม่เห็นทำอะไรกันนะ งงๆเหมือนกัน)
แล้วก็เหมือนมาเรียนภาษาสเปนไปด้วยในตัว
เพราะพูดกันคล่องมาก เลยกลายเป็นพูดได้ 3 ภาษาเลย
เพราะมาจากควิกเบกกัน เป็นเมืองในแคนาดาที่พูดฝรั่งเศสด้วย
หาดทรายดำ
วันนี้เราไม่ได้กินข้าวที่บ้าน Homestay มากินรวมที่ส่วนกลาง
ชาวบ้านเจ้าของ Homestay โชว์ฝีมือทำอาหารให้กิน 🙂
และนั่งเล่นกับเด็กที่นี่
เบียร์นิการากัว
Day 9 (July17,2013) – Granada, Nicaragua
เช้านี้เดินทางออกจาก Ometepe Island
นั่งเรือและต่อรถมาเมือง Granada ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่า
ของ Nicaragua (เมืองหลวงปัจจุบัน ชื่อ Managua)
พักที่โรงแรม Cocibolca
Welcome note
ที่พักน่าอยู่ แต่ได้ห้องในหลืบเชียว
โรงแรมอยู่ใกล้ถนนหลักในเมือง
สามารถเดินไปสถานที่สำคัญๆใกล้ๆได้
เป็นที่ไม่ได้ใหญ่มาก คนไม่พลุพล่าน
ถนนหลักกลางเมือง มีร้านอาหารตรึม
รถม้านักท่องเที่ยว
อนุสาวรีย์ที่ระลึกการประกาศอิสรภาพ
ผังเมืองเหมือนประเทศโคโลเนียลทั่วไปคือ มีพลาซ่า หรือ สวนอยู่ตรงกลาง
ล้อมรอบด้วยโบสถ์ ตึกรัฐบาล
ตึกที่เก่าที่สุดในเมืองนี้ แต่หน้าโบสถ์ทำใหม่
โบสถ์เก่า
ค่าครองชีพที่นี่พอๆกับเมืองไทย ถูกกว่า Costa Rica
คนไทยบอกถูก ฝรั่งบอกโคตรถูก
บรรยากาศในเมืองก็ไม่ได้น่ากลัวมากนัก เมื่อเทียบกับหลายๆเมืองในเอเชีย
เดินไปตลาด อารมณ์ประมาณตลาดสดเมืองไทย เน่าๆเละๆหน่อย
เดินไปสักพัก คนมาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด
เหมือนขบวนแห่ประชาสัมพันธ์พรรคการเมือง
Day 10 (July18,2013) – Day tour, Nicaragua
วันนี้ทัวร์เมืองใกล้ๆ Granada
ที่แรกไปแวะชมปากปล่องภูเขาไฟที่เมือง Masaya
ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆให้แวะเข้าชม
แวะทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ สวยดี
แต่รูปอยู่อีกกล้องนึง
ไกด์บอกว่าก่อนมาเป็นไกด์จบสัตวแพทย์
แต่มาเป็นไกด์เพราะได้เงินดีกว่า
ค่าครองชีพที่นี่พอๆกับไทย แต่รายได้ที่เขาได้น้อยกว่า
เงินเดือนหมอประมาณ 300$/เดือน
งานทั่วๆไปประมาณ 100-200$/เดือน
ที่รายได้ดีหน่อยก็คือหารายได้กับนักท่องเที่ยว
ที่นี่ไม่มีชนชั้นกลาง มีแต่จนเลย กับ รวยล้นฟ้า
คนที่รวยๆก็พวกเจ้าของไร่ เจ้าของสวน
ผลผลิตที่ได้ ส่วนใหญ่ส่งออกนอกประเทศ ไปอเมริกา
ไกด์พามาแวะตลาดของที่ระลึกให้ช๊อปปิ้ง
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขายคล้ายๆกัน
ผลไม้ท้องถิ่นที่นี่
มีหน้าตาแปลกๆหลายอัน
อันนี้รสชาติเหมือนละมุด
ชมการผลิตเครื่องปั้นดินเผา
จากนั้นบางส่วนอย่างดูดวงจาก witch ก็แวะที่หมู่บ้านแม่มดสักพัก
ได้ลองปั้นเครื่องปั้นดินเผาด้วย
แต่ผลลัพธ์ออกมาเน่ามาก 55
เตาเผา
ไกด์พามาแวะบ้านยิปซี รับดูดวง
ตอนเย็นนั่งเรือในทะเลสาบนิการากัว
ขึ้นเรือที่ท่าเรือในเมือง Granada
แต่บรรยากาศไม่เป็นใจ ฝนตก เลยทำให้เปียกโชกกันไป
และที่ขาดไม่ได่้ตอนเย็น คือ การ drink
ฝรั่งนี่ drink กันได้ทุกวันต่อเนื่อง อึดกันสุดๆ กระเป๋าหนักกันทุกคน
ไปนั่งกันที่ Irish bar บนถนนหลัก
และก็มีเหมือนวง cover dance ท้องถิ่น
เต้นกลางถนนหาตังค์ เต้นไปเต้นมา
จาก hip hop ตีลังกา b boy ก็กลายเป็น
เต้น gangnam style ซะงั้น
ดังมาไกลถึงนิการากัวเลยทีเดียว
ส่วนรถ taxi ที่นี่ ตอนหลังก็ได้ทราบจากไกด์ว่า
ที่มันหน้าตาเหมือนตุ๊กๆที่ India เพราะว่านำเข้ามาจาก India นี่เอง
Day 11 (July19,2013) – The only one Volcano Boarding in the world, Nicaragua
ออกแต่เช้าตรู่จากเมือง Granada มาเมือง Leon
เพื่อกิจกรรม Volcano Boarding
มันเกิดจากชาวออสเตรเลียคนหนึ่งมาเจอภูเขาไฟนี้เข้า
เลยลองเอา snow board มาเล่น
จากนั้นก็มีกิจกรรมนี้มาตั้งแต่ปี 2001
ส่วน big foot hostel เพิ่งมาทำต่อจากบริษัทเดิมไม่นานนี้
รถขนคนไปเชิงภูเขาไฟ ต้องนั่งจากในเมืองไปอีก 40 นาที
ภูเขาไฟที่เราจะไปปีนกัน ต้องจ่ายค่าผ่านอุทยานอีกต่อ
จากนั้นนั่งรถไปอีก 10 นาที ก่อนที่จะต้องปีนขึ้นภูเขาไฟ
อีกเกือบ 1 ชม. พร้อมแบกบอร์ดไม้, เสื้อส้ม, แว่นตา
หนักมากกก โชคดีเพื่อนๆช่วยด้วย
เขาบอกว่ามีหลายประเทศติดต่อเข้ามาในการทำ Volcano Boarding
ให้เป็นกิจกรรมใหม่ในประเทศเขา เช่น Guatemale, Indonesia
แต่ก็ไม่มีที่ไหน เหมือนภูเขาไฟลูกนี้ เป็นภูเขาไฟที่ยัง active ตลอดเวลา
ทำให้ไม่มีต้นไม้ขึ้น เพราะจะเกิดระเบิดก่อน ทำให้เป็นภูเขาไฟสีดำ
เคยระบิดจนเถ้าภูเขาไฟปกคลุมหนา 8 ซม. ในเมือง Leon ที่ห่าง 25กม.
บอร์ดไม้
อ่านเพิ่มเติม :
[CR] The First Volcano Boarding in the World – มาเซิร์ฟบอร์ดไม้ลงจากภูเขาไฟกันไหม (Nicaragua)
จากนั้นเรากลับมาที่ big foot hostel
เพื่อนั่งรถบรรทุกไปท่าเรือที่ Poneloya อีกประมาณ 30 นาที
เพื่อต่อเรืออีก 10 นาที ไปเกาะส่วนตัว
เมือง Poneloya เป็นเมืองในนิการากัวที่ติดฝั่งทะเล Pacific
มีรถม้ามารับกระเป๋า จากนั้นเดินจากท่าเรือบนเกาะ
ประมาณ 10 นาที ก็จะถึงรีสอร์ท
ถึงจะดูไฮโซบนหาดส่วนตัว แต่อยู่กันแบบชุมชนแออัดนะ 55
16 dorm beds ในห้องเดียว
ด้านล่างเป็นผับ เป็นบาร์ จะได้นอนไหม 55
บรรยากาศทะเล
ถึงชายหาดมีหลายกิจกรรมให้ทำ ทั้งอาบแดด เล่นกีต้าร์ วอลเล่ย์บอล
ตกดึกก็เหมือนทุกๆวันคือ ปาร์ตี้ กินเหล้า
ก่อกองไฟ เปิดเพลงแดนซ์
ไม่มีวันไหนที่ไม่มีปาร์ตี้จริงๆ
Day 12 (July20,2013) – On the beach all day all night, Nicaragua
เช้าตื่นมา หันไป เพื่อนๆนอนกันได้เอ็กซ์มาก นุ่งน้อยห่มน้อยกันสุดๆ
แต่ละคนใส่กางเกงในตัวเดียว เสื้อในบ้าง เสื้อกล้ามบ้างนอน
หนุ่มไ่ทยมาทริปนี้คงเลือดกำเดากระฉูดเป็นแน่
ฝรั่งก็อยากจะดำ อาบแดดกันทั้งวัน อยากผิวแทน อาบแดดกันจนจะเป็นมะเร็ง
คนเอเชียก็อยากขาว ฉีดกลูตาไธโอนกันเข้าไป จนจะเป็นมะเร็งเหมือนกัน
อานะ โลกนี้
มีกีตาร์ให้ยืมเล่น แก้เซ็งไปได้
ในทริปนี้ เพื่อนสาวชาวโรมาเนีย เกิดแอบชอบหนุ่มในทริปชาวอังกฤษ
เนื่องจากทริปนี้เกิดจากการรวมทริปย่อย 2 ทริป รวมกันเป็นทริปใหญ่
1. จาก San Jose, Costa Rica ถึง Antigua, Guatemala
2. จาก Antigua, Guatemala ถึง Mexico
เพื่อนสองคนนี้จบแค่ทริปหนึ่ง ปรากฏว่า
เพื่อนผู้ชายจะไปเที่ยวคิวบากับจาไมก้า แต่ผู้หญิงกำลังจะไปเที่ยวต่อเม็กซิโกเอง
ผู้หญิงถึงกลับเปลี่ยนแผน จะไปคิวบากับกรุ๊ปทัวร์เดียวกับฝ่ายชาย
บอกหัวหน้าไกด์ให้ทำเรื่องให้ ฮาาา
สุดยอด ทำถึงขนาดนี้เลยทีเดียว
รูปนี้ ฝนทำท่าเหมือนจะตก แต่ก็ไม่ตก
ลมพัดสายฝนไปที่อื่นแทน
รู้สึกเหมือนติดเกาะ
ไม่มีร้านอาหารใดๆ ห้ามนำอาหารภายนอกเข้ามา
ต้องสั่งอาหารจากที่นี่เท่านั้น
เมนูอาหาร
(25 cordoba = 1$)
Drinking game
กินเบียร์กันแทนน้ำ
ดึกๆเริ่มมีการถอดเสื้อสลับกัน และมี Kiss ด้วย สำหรับทีมแพ้