ตอนแรกที่ได้ไปเที่ยวทริปแอฟริกา กะจะเขียนรีวิวเอามาลงพันทิพเหมือนกัน
แต่…ประสบการณ์กับเคนย่าแอร์เวย์มาแรงกว่า
เลยขอเขียนประสบการณ์กับเคนย่าแอร์เวย์ก่อนแล้วกันนะคะ
เราเดินทางกับเคนย่าแอร์เวย์ ทั้งหมด 6 ไฟล์ท
1) KQ061 Bangkok – Nairobi (Dec16, 2016) 01:00 – 06:00
2) KQ402 Nairobi – Addis Ababa (Dec18, 2016) 16:50 – 18:50
3) KQ401 Addis Ababa – Nairobi (Dec21, 2016) 10:15 – 12:20 (ไฟล์ทนี้ดีเลย์)
– ตอนหลังส่งเมล์มาแจ้งเปลี่ยนเป็นเวลา 9:50 – 11:55 > 9:55 – 12:00
4) KQ762 Nairobi – Johannesburg (Dec21, 2016) 13:35 – 16:50 (ทำให้มาต่อเครื่องไฟล์ทนี้ไม่ทัน)
– ตอนหลังส่งเมล์มาแจ้งเปลี่ยนเป็นเวลา 13:25 – 16:40
5) KQ761 Johannesburg – Nairobi (Dec31, 2016) 12:05 – 17:10
6) KQ886 Nairobi – Bangkok (Dec31, 2016) 22:55 – 12:05
– ตอนหลังส่งเมล์มาแจ้งเปลี่ยนเป็นเวลา 23:59 – 13:30
(ไฟล์ทนี้ดีเลย์ 24 hr เป็น Jan1, 2016 เวลา 23:59 / กระเป๋าล่าช้ามากกว่า 24 hr)
มีเมล์ที่ส่งมา แจ้งเลื่อนเวลา
ซึ่ง…ทำให้เราระแวงตลอด 55 กลัวว่ามันจะเลื่อนไปเยอะ
จนกระทบต่อแผนการท่องเที่ยวของเรา
1. พลาดเที่ยวบิน (Dec21, 2016)
เราพลาดเที่ยวบิน เนื่องจากไฟล์ท KQ401 Addis Ababa – Nairobi ดีเลย์ที่ Addis Ababa Bole International Airport ไป ~ 1ชม.ครึ่ง
พอเดินทางมาถึงที่ Nairobi ก็บ่ายครึ่งแล้ว ซึ่งไฟล์ท KQ762 Nairobi – Johannesburg เครื่องออก 13:25 …..ไม่ทันจ้า
ตอนนั้นพนักงานเคนย่าแอร์เวย์ ถือตั๋วใบใหม่มารอที่ทางเดิน ให้เลย
ซึ่งตั๋วใบใหม่ KQ764 เครื่องออก 21:10
ช๊อกกกไป 10 วิ เพราะต้องรอไปอีกประมาณ ~8ชม.
และเราจะไปถึง Joburg ~ เที่ยงคืน (เวลา Joburg ช้ากว่าที่เคนย่า 1 ชม.)
ซึ่งทำให้ free shuttle จากโรงแรม จะไม่มารับเรา
(เขามี free shuttle แค่ช่วง 7:00-22:00)
เราต้องเสียค่า taxi ไปโรงแรมเอง
เราก็เดินไปคุยกับที่เคาเตอร์ ว่าเขาสามารถช่วยเหลืออะไรเราได้บ้าง
เขาก็ Offer ให้เราไปพักโรงแรม ไปอาบน้ำ แล้วเขาจะมีรถไปรับที่โรงแรม มาส่งที่สนามบิน อีกที
เราก็…โอเคเลย อย่างน้อยก็จะได้ไปกินข้าวด้วย
กว่าจะ process กระบวนการในการผ่านตม. ติดต่อเคาเตอร์ รอ shuttle bus สักพักใหญ่
(จนถึงขนาด คุณพี่แขก ครอบครัวหนึ่ง เขามีเด็กเล็กมาด้วย อุ้มลูกมาร้องไห้ใส่หน้าเคาเตอร์เลยจร้า)
รวมทั้ง รถติดในเมือง
กว่าจะไปถึงโรงแรม Summerdale ใน Nairobi ก็เกือบบ่ายสาม
เลยได้แค่ กินข้าวกลางวัน อาบน้ำ เล่นเนต แล้วก็เดินทางกลับมา
สนามบิน Jomo Kenyatta International Airport อีกครั้ง เพื่อมารอต่อไฟล์ทไป Joburg
ปรากฎ เครื่องดีเลย์ออกไปอี๊กกก
จากจะออก 21:10 เป็น ~ 23:30 ซึ่งจะทำให้เราไปถึง Joburg ~ตี 2 กว่า
ดึกมากกก แต่ทำอะไรไม่ได้
(ได้คุยกับ คุณพี่ชาว Joburg คนหนึ่ง ไม่ได้ไปโรงแรมที่ทาง เคนย่าแอร์เวย์ offer ให้
ขอรอที่สนามบิน เพราะคิดว่ารอไม่นาน เจอดีเลย์ไปอีก คุณพี่ถึงกับเซ็ง)
เราก็ไปขอ letter of notification จากเคาเตอร์เคนย่าแอร์เวย์ (ซึ่งคนไปรุมกันตรึม) เผื่อจะมาเคลมกับประกันการเดินทางที่ทำไว้ …ตอนระหว่างรอไฟล์ท เราก็พยายามศึกษาเงื่อนไขประกัน และก็พบว่า..มีโอกาสสูงที่จะเคลมค่าแท๊กซี่ไม่ได้ T T เพราะเขาให้แค่ค่าอาหาร และค่าที่พักในช่วงการรอไฟล์ท สำหรับการพลาดเที่ยวบิน
ไม่เป็นไร ….เดี่ยวไปลุ้นตอนเคลมประกันอีกที
ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นเครื่องไฟล์ทนั้น เราไปถึงที่ Joburg ดึกมาก
ร้านแลกเงินปิดหมดแล้ว แต่แท๊กซี่ไม่รับดอลล่าร์
ทำให้เราต้องแลกกับพี่มืดในสนามบินที่รับแลกเงิน (black market)
เราไปถึงที่พักตี 3 นอน ตี 3ครึ่ง แล้วอีกวันเรามีแพลนเที่ยวใน Joburg
ด้วย Red Bus Citysightseeing (ซึ่งจ่ายเงินจองไปแล้ว) ทำให้เราต้องตื่นเช้าพอควร
สรุปได้นอนไปประมาณ 3-4 ชม. …ไปเที่ยวแบบซอมบี้มากกก
สำหรับพลาดเที่ยวบินอันนี้ ยังไม่เท่าไร ต้องรายการต่อไป …ดีเลย์ 24hr
2. ความล่าช้าในการเดินทาง (Dec31, 2016 – Jan2, 2017)
อีกเหตุการณ์กับเคนย่าแอร์เวย์ เป็นเที่ยวขากลับไป Bangkok หลังจากเที่ยวในแอฟริกามาเป็นเวลาหลายวัน
อันนี้เลวร้ายกว่า การพลาดเที่ยวบินในครั้งแรก เพราะการจัดการของทางเคนย่าแอร์เวย์ย่ำแย่มากก
ทั้งการสื่อสารผ่าน departure board / การ process กระบวนการต่างๆ ล้มเหลวทั้งหมด
เหตุการณ์มันเริ่มตะหงิดๆตั้งแต่เราได้ตั๋วจาก self check-in ที่สนามบิน O.R. Tambo International Airport, Johannesburg
มี 2 ไฟล์ท คือ
1) KQ761 Johannesburg – Nairobi (Dec31, 2016) 12:05 – 17:10
2) KQ886 Nairobi – Bangkok (Dec31, 2016) 23:59 – 13:30
เราก็งงๆตั้งแต่ได้ตั๋วของไฟล์ทที่ 2 จาก Nairobi – Bangkok แล้วว่า…
ทำไมเครื่องออก 23:59 แต่เขียน boarding time 04:00 หว๊า
งงๆ คงพิมพ์ผิดมั้ง
ตอนแรกเราคิดว่าเขาพิมพ์ผิดจริงๆ
หลังจากได้ตั๋วจากตู้ self check-in เราก็เอากระเป๋าไป drop ที่เคาเตอร์
ซึ่งทางพนักงานก็ไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติม …เราก็ยังคิดว่าตั๋วพิมพ์ผิดอยู่
เราก็ไปผ่านตม. ไปช๊อปปิ้ง ระหว่างรอเครื่อง และขึ้นเครื่องไป Nairobi ปกติ
พอมาถึงสนามบิน Jomo Kenyatta Int. Airport เพื่อต่อเครื่อง
มองไปที่ departure board ช๊อกก…ไป 10 วิ
อารมณ์แบบ…อีกแล้วหรอออ
เพราะบนบอร์ดขึ้น delay 5:00
คือ…จากเครื่องจะออก 23:59 เป็น 5:00 ดีเลย์ 5 ชม.
นั้นหมายถึงว่าจากปกติ เราต้องรอต่อเครื่องที่สนามบินอยู่แล้ว 7 ชม. + 5 ชม. เป็น 12 ชม.
แล้วก็ อ๊ออออ..เลย ว่าทำไมใน Boarding pass เราเขียน boarding time 4:00
(แต่ depart ยังเป็นเวลา 23:59 นะ งงม่ะ)
ซึ่ง…พนักงานสายการบินที่ Joburg ไม่มีใครบอกเราเลย
เราก็เดินไปที่เคาเตอร์เคนย่าแอร์เวย์ เพื่อสอบถามว่าตกลงเครื่องออกเวลาไหนกันแน่
ปรากฎว่า… เขาบอกว่า delay และก็เสนอให้เราไปพักโรงแรม
แล้วจะมีรถไปรับที่โรงแรม ตอนตี 2 เพื่อมาขึ้นเครื่องตอนตี 5
เราก็โอเคเลย เพราะมันหลายชม. เราก็ process ขั้นตอนเพื่อให้ได้ voucher โรงแรมมา
ซึ่งก็มีคนไทยที่ประสบชะตากรรมเดียวกับเรา 2 กรุ๊ปที่เจอ คือ
1) กรุ๊ปพี่ๆสาวประเภทสอง 2 คน
2) กรุ๊ปพี่ๆชาวมุสลิม 8 คน
ซึ่งแต่ละคนก็พยายามยื่นเรื่องขอ voucher โรงแรมกันไป
แต่กรุ๊ปพี่ชาวมุสลิมเขารู้ว่าเครื่องที่นี่จะดีเลย์มาตั้งแต่ที่ Joburg แล้ว
เขาเลยไม่ได้เอากระเป๋า check thru ไป Bangkok
ส่วนเรา เราเอากระเป๋า check thru ไปเลย ทำให้ตอนนั้น
เรามีแค่กระเป๋าเล็กติดตัว ไม่มีเสื้อผ้า มาเลย ทุกอย่างใส่ไว้ในกระเป๋าใหญ่หมด
พอเราไปถึงโรงแรม (Hillpark, Nairobi) เราก็ไปกินข้าวก่อน เพราะหิวมาก
กินเสร็จ มาคุยกับ staff ที่ lobby เราก็เจอกรุ๊ปพี่ๆสาวประเภทสอง ที่เพิ่งมาถึง
เราก็เลยถามพี่ๆเขาว่า ทำไมออกมาจากสนามบินช้าจังคะ?
เขาบอกว่า พี่พยายามหาซื้อซิมอยู่ เพราะดีเลย์ไปตั้ง 1 วัน
เป็นไฟล์ท Jan 1, 2017 เวลา 23:59 รถจะมารับ 19:00 วันพรุ่งนี้
เรากับเพื่อนได้ยิน ช๊อกกกไป 30 วิ + บวกกรี๊ดในใจ
เราก็แบบ…งงมากกก เฮ้ยยย มันจะเลื่อนไปขนาดนั้น ได้เลยหรออ
แล้วทำไมถึงออก voucher โรงแรมให้เรา ว่ามีรถมารับ ตี 2
พี่คนไทยบอกว่า มีเมล์มาแจ้ง ว่า KQ886 (Dec31, 2016) cancel flight เป็นออกวันที่ Jan1, 2017 แทน
เราก็เลยรีบใช้เนตโรงแรมเช็คเมล์เลย พบว่า ….เฮ้ยย ในเมล์เป็นแจ้งเลื่อนไฟล์ทจริงๆ แต่เมล์มาตอน 2:42pm (Dec31, 2016)
ทำไมบน departure board ที่สนามบินยังไม่เปลี่ยน เราลงเครื่องมาก็ ~17:00 กว่าๆแล้ว
และพนง.ที่สนามบินยังออก voucher โรงแรมและรถมารับเป็นตี 2 ด้วยซ้ำ
ตอนนั้นงงมากก เลยขอให้ staff โรงแรมโทรไปถามทางเคนย่าแอร์เวย์ให้หน่อยว่า ยังมีไฟล์ทนี้อยู่ไหม? รถจะยังมารับตี 2 อยู่ไหม? เราจะได้ไม่ต้องตื่นเก้อ พนง.โรงแรมก็บอกว่าโทรไม่ติด ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงถ้าสายการบินจะแจ้งมา แต่ตอนนี้ยังไม่มี ให้คุณรอเวลาเดิมไปก่อน
เรา..เงิบ..ค่ะ
เรากับเพื่อนก็พยายามโทร.ติดต่อ ด้วยโปรแกรมโทร. ผ่าน wifi โทร.เข้าไปสายการบิน แต่โทรไม่ติดหลายครั้ง
ซึ่งในที่สุด ติดครั้งนึง แต่สายก็หลุดระหว่างคุย …ต่อสาย จนเริ่มเหนื่อย และก็คิดว่าคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอการติดต่อมาจากสนามบิน และถ้าไฟล์ทเลื่อนจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีรถมารับเราตอนตี 2 เรากับเพื่อนก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำนอน
ปรากฎ 1:30 น. มี wake up call จากพนง.โรงแรมมาให้เราตื่นจร้าา และพนง.บอกว่า รถกำลังจะมารับ เราก็ล้างหน้า (ใส่ชุดเดิมนี่ล่ะ) ลงมารอที่ lobby และลองเช็คไฟล์ทในเนต มันมีไฟล์ทจะออกวันนี้จริง (Jan1, 2017) ไป Bangkok ดีเลย์จาก 5:00 เป็น 7:30 เรากับเพื่อนก็คิดว่า…อาจจะเป็นไฟล์ทนี้ก็ได้
ตอนนั้น งงมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะพนง.โรงแรมก็ไม่สามารถช่วยเราได้ เราต้องคุยกับพนง.สายการบินเท่านั้นถึงจะรู้ความจริง
บนรถ shuttle bus ที่มารับ มีผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ประสบเหตุไฟล์ทดีเลย์ จากหลากหลายไฟล์ท ไปสนามบินด้วยกัน
(มีครอบครัวชาวฝรั่งเศสพร้อมลูกสองที่โดนแซะออกมาจากเตียง ไปสนามบินตี 2 พร้อมกับเรา และเครื่องเขาก็ดีเลย์อีกรอบเหมือนเราด้วย)
เราไปถึงสนามบิน ~2:30am ที่หน้าเคาเตอร์เคนย่าแอร์เวย์ มีกลุ่มคนจีนนั่งนอนรออยู่เต็มเลย เราไปดูที่บอร์ด ยังเป็น delay 5:00 to Bangkok อยู่เลย ทางสายการบินไม่เปลี่ยนข้อมูลบนบอร์ดเลยสักนิดดดเดียว
เราก็เข้าไปต่อคิว ปรากฎเขาออก Boarding pass ให้เราใหม่เป็น (Jan1, 2016) เวลา 23:59
นั่นคือ…เราต้องกลับไปโรงแรมอีกรอบเพื่อรอขึ้นเครื่องไฟล์ทหน้า
เราก็ถามว่า ทำไมในเนตมีเครื่องออกตอน 7:30 ทำไมเรากับเพื่อนไม่ได้ขึ้นเครื่องไฟล์ทนี้? ตกลงมีเครื่องออกไป Bangkok ตอน 7:30 อยู่ใช่ไหม? เขาก็บอกว่า “มี เครื่องออก” แต่ Sorry Sorry… It’s fully booked. คือ…คำตอบนี้
แล้วให้เราตื่นมากลางดึก เพื่อบอกว่า…คุณไม่ได้ขึ้นเครื่อง
เงิบมากก
สรุปเราก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ง่วงมาก เหนื่อยมาก ไม่มีแรงตอบโต้ ซึ่งเพื่อนเราก็ตอบโต้ไปบางส่วน ทางพนง.เคนย่าแอร์เวย์ ก็เหมือนจะหูทวนลมไปแล้ว เพราะผู้โดยสารคงมาเคลมเยอะมากกกก
(ระหว่างนั้นได้คุยกับผู้โดยสารชาวอินเดียคนหนึ่ง เดินทางไปดูไบ ดีเลย์มาตั้งแต่ Dec29, 2016 เป็นเวลา 2 วันได้ เขาบอกว่า เขาไป-กลับ โรงแรม-สนามบิน มา 4 รอบแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องเลย T T)
เรากับเพื่อนก็ต้อง process การขอ voucher โรงแรมกับรถมารับอีกรอบ ที่สนามบิน สรุปเขาบอกว่าจะให้รถมารับที่โรงแรมเดิม เวลา 21:00 เพื่อขึ้นเครื่อง 23:59 (Jan1, 2017)
เราไปถึงโรงแรม…กว่าจะได้นอน ตีสี่ จร้า
อีกวันนี่…เรากินๆนอนๆ ทั้งวันเลย เพราะเหนื่อยจากเที่ยวมาหลายวัน และต้องมาเจอกับการดีเลย์ที่แบบ …ทางสายการบินไม่มีการจัดการที่แน่นอนอะไรเลย แถมตอบเหตุผลไม่ได้ด้วย
พอช่วงเย็นๆ ขณะที่เราเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ~18:30 กะไปกินข้าว 19:30 รถมารับ 21:00 ซึ่งน่าจะพอดีกันพอดี
สรุปมี พนง.โรงแรม โทร.มาตอน 18:30 แบบ…เราเพิ่งอาบน้ำเสร็จพอดี บอกว่า… รถจะมารับ 19:00 ให้ลงมารอรถได้ เราก็แบบ…เฮ้ยยย ไหนบอกว่า 21:00
แล้วเราก็นึกถึงที่ พี่คนไทยบอกว่า รถจะมารับพี่เขาตอน 19:00 รถคงจะมารับกรุ๊ปเรา กับ กรุ๊ปพี่เขา พร้อมกัน นี่เรายังไม่ได้กินข้าวเลย คือ…ถ้าบอกว่าจะมารับ 19:00 ตั้งแต่ตอนแรกมันก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราจะได้จัดการเวลาของเราให้ตรงกับเวลาที่จะมารับ นี่อะไร …เซอร์ไพร์สตลอดเวลา เราเหนื่อยกับการจัดการเวลาของสายการบินนี้มากกก
สรุปเราก็รีบกินข้าวแบบเร่งด่วน เพื่อรถที่จะมารับ แล้วรถก็มารับพร้อมกับพี่กรุ๊ปคนไทย 2 คนนั้น จริงๆ
ไปถึงที่สนามบิน เรารีบเข้าไปดูที่บอร์ดเลย ขออย่าให้ดีเลย์อีกเลยยย รอมานานมากกแล้ว
ชุดนี่เราใส่มา 2 วันแล้ว ไปถึงไทย…เสื้อที่ใส่อยู่จะครบ 3 วันพอดี (หลายคนอาจบอกว่า ทำไมไม่ซื้อเสื้อใหม่ เพราะว่าในไนโรบี เดินช๊อปไม่ง่ายเหมือนในไทย สำหรับเรามันมีความน่ากลัวสำหรับผู้ ญ อยู่ และที่พักเราอยู่บนเนินเขา ต้องนั่งแท๊กซี่ไป อีกทั้งเป็นช่วงวันหยุดด้วย ร้านส่วนใหญ่ปิด รวมถึงเราเหนื่อยจากการเที่ยวด้วย เลยไม่อยากเข้าไปเดินในเมือง)
ยังดีที่ไฟล์ทนี้ไม่ดีเลย์จร้า KQ886 scheduled
เราเข้าไปขอ letter of notification จากสายการบิน เผื่อจะเคลมกับประกันได้ (พนง.สายการบินก็ดูจะหน้าเหวี่ยงๆมาก ตอนเราไปติดต่อ) เราได้ใบเคลมมา ซึ่งก็ไม่รู้จะเคลมได้ไหม ต้องไปลุ้นอีกที เพราะประกันจะมีเงื่อนไขอีก ซึ่งเหตุผลที่ทางสายการเขียนมาให้ในจดหมายก็ดูคลุมเคลือมาก เราก็complain กับพนง.สายการบินไปแล้ว แต่เขาก็แก้ไขให้ไม่ได้
สรุปวันนั้นเราก็ได้ขึ้นเครื่องโดยสวัสดิภาพ เครื่องมาถึงที่ไทย 13:30 (Jan2, 2017) แต่ก็ยังไม่วายมีเหตุการณ์ให้ได้บ่นกับสายการบินนี้อีก ….
3. การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
หลังจากมาถึงไทย (Jan2, 2017) 13:30
เราก็พบว่า…กระเป๋าเรากับเพื่อนไม่ขึ้นมาที่สายพาน T T
เราก็เอา tag number กระเป๋าไปแจ้งที่ Airline Passenger Service ในสนามบินสุวรรณภูมิ พนง.พยายาม track กระเป๋าเราให้ แต่ไม่พบ คาดว่ายังตกค้างอยู่ที่ไนโรบี ให้เรากรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม แล้วเขาจะติดตามกระเป๋าเรา และเอาไปส่งให้ที่บ้าน
ระหว่างรอคอยกระเป๋า ก็มีคนบอกมาว่า …มีโอกาสกระเป๋าจะหาย เพราะมีคนเคยกระเป๋าสาบสูญจากเดินทางไปในแถบประเทศแอฟริกานี่ล่ะ เราก็ลุ้นๆอยู่ว่า…มันจะหายไหม
จากนั้น วันที่ (Jan3, 2017) เพื่อนเราติดต่อไปกับเบอร์ที่เขาให้มา พนง.แจ้งว่ากระเป๋าจะมาถึงที่กทม. เวลา 16:00 (เฮ้อ…โล่งง กระเป๋ายังอยู่จร้า) และจะไปส่งให้เพื่อนเรา ซึ่งบ้านอยู่กทม. ~19:00
ส่วนกระเป๋าเรา เขาจะมาส่งให้ ~24:00 เนื่องจากเราทำงานอยู่ต่างจังหวัด เราเลยให้เขามาส่งอีกวันดีกว่า เพราะดึกเกินไป เราคงหลับไปก่อนแล้ว พนง.เลยแจ้งว่าจะมาส่งให้ (Jan4, 2017) ~บ่ายๆ
ในที่สุด เราได้รับกระเป๋า (Jan4, 2017) 15:00
(หลังจากไม่ได้เจอกระเป๋ามาตั้งแต่ check thru จาก Joburg – Bangkok ไปตั้งแต่ Dec31, 2016)
[…] https://journeyaddict.com/2017/01/12/kenyaairways/ […]
LikeLike
ขอบคุณสำหรับข้อมูลประสบการณ์ ของสายการบินเคนยาค่ะ เรากำลังจะใช้บริการสายการบินเคนยา ในวันที่1ตุลาคม 2019 นี้ เพื่อเดินทางจากกรุงเทพ ไปเปลี่ยนflight ที่ Nairobi เพื่อต่อไป Johannesburg ค่ะ รู้สึกกังวลใจค่ะ เพราะยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับTransit flightค่ะ
LikeLike
อย่างบินกับ เคนย่าเลย เราทำงาน อยู่สนามบิน เคนย่าดีเลบ่อยมากไม่มีคำตอบ การจัดการที่ที่ดีเลย ขนาดที่ไนโรบียังจัดการแย่ ที่ไทยไม่ต้องผู้เลย
LikeLike