Family trip in Seattle-Alaska-Vancouver ตอน 1 (Alaska Cruise)

[Seattle-Alaska-Vancouver, June2014]

รีวิวอันนี้เราขออนุญาตมาจากน้าของเราแล้ว

ที่รีวิวไว้ในพันทิพ http://pantip.com/topic/32283347

เป็นทริปครอบครัวหลังจากที่เราเรียนจบป.โทที่อเมริกา ก่อนกลับมาไทย

เดี๋ยวถ้ามีเวลา วันหลังเราจะมาเขียนรีวิว Alaska เวอร์ชั่นเราบ้าง ซึ่งเวอร์ชั่นเรานี่ ถึกกว่าเวอร์ชั่นที่น้าเรารีวิวแน่ๆ 55 คือ จริงๆมันมีความลำบากตั้งแต่ การจองตั๋วเรือ, รถที่มารับ, การรวมให้ทุกคนมาเจอกันที่สนามบิน Seattle และอื่นๆ มากมายในระหว่างการเดินทางนะ 55

เป็น Memorable trip อีกทริปหนึ่ง เพราะจริงๆ เราอยากให้แม่ไปร่วมงานรับปริญญาที่ North Carolina มากกก แล้วอยากให้แม่อยู่เที่ยวหลังจากร่วมงานรับปริญญา ซึ่งอาจจะเป็นไปเที่ยวแทบ East Coast เนื่องจาก North Carolina อยู่ฝั่ง East

แต่ด้วยความที่เวลาไม่ลงล๊อค ในหลายๆอย่าง เราเลยจัดไป Alaska Cruise แทน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่และประสบการณ์ในการนั่งเรือสำราญ ที่อยากพาแม่ไปตั้งแต่ก่อนมาเรียนแล้ว (การพาแม่มาเที่ยว Alaska เลยเหมือน Dejavu เหมือนกัน)

ซึ่งในระหว่างเรียนที่อเมริกา 2 ปี เราไม่ได้กลับเมืองไทยเลยยยย ตอนเจอแม่ที่สนามบิน Seattle นี่เป็นการเจอในรอบแบบ…2 ปี เราเข้าไปกอดแม่ แบบ…น้ำตาไหล ร้องไห้ เลยอ่ะ (คนที่สนามบินคงงงแบบ…สองคนนี้นี่ไม่ได้เจอกันมานานจริงๆ ใช่ไหม 55)

 


 

Family trip นี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลานสาวมาศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่อเมริกา และได้พูดคุยในครอบครัวว่าเมื่อจบการศึกษาจะพากันมาเที่ยว การเที่ยวอเมริกาและแคนาดาของพวกเราจึงเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2557 เป็นช่วงที่จบการศึกษาพอดี และถือโอกาสนี้มาเที่ยวพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวและรับหลานสาวกลับเมืองไทยด้วย เดือนมิถุนายนนี้เป็นฤดูร้อนของภูมิประเทศแถบ Seattle – Alaska – Vancouver  อุณหภูมิอยู่ที่  13 – 17 องศาเซลเซียส อากาศกำลังเย็นสบายสำหรับคนที่อาศัยในภูมิภาคนี้  แต่เราคนไทยจะรู้สึกว่าหนาวทีเดียว ชาวต่างชาติที่เมือง Seattle และ Vancouver ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และคนผิวขาว แต่คนผิวเหลืองจะเยอะมากกกกกก

Family trip in Seattle-Alaska-Vancouver ใช้เวลาท่องเที่ยวทั้งหมด 17 วัน อยู่ที่ Seattle 4 วัน ล่องเรือเที่ยว Alaska 8 วัน และ Vancouver 5 วัน  หลังจากสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาและแคนาดาผ่านทุกคนแล้ว (สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเป็นกลุ่มพร้อมกันทั้ง 7 คน) จึงได้จองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อนเดินทาง 3 เดือน ทำให้ได้ราคาตั๋วที่ไม่แพง หากจองตั๋วเครื่องบินกระชั้นมากหรือก่อนเดินทางสัก 1 เดือนจะได้ตั๋วราคาต่างกันถึง 20,000 บาททีเดียว

รีวิวนี้จะยาวสักนิด และขอขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

การจองทัวร์ Alaska ล่องเรือสำราญหรูระดับโลก Norwegian sun – Seattle – Icy Strait Point – Juneau –  Skagway – Ketchikan – Vancouver รวมเวลาทั้งหมด 11 วัน 8 คืน ที่อยู่บนเรือสำราญ และพวกเราเที่ยวที่ Seattle ก่อน 4 วัน จากนั้นนั่งเครื่องบินมาที่เมือง Anchorage, Alaska เที่ยวที่เมืองนี้และนอนพักที่นี่ 1 คืน รุ่งขึ้นเวลา 12.00 น. บริษัททัวร์จะมารับเราที่หน้าโรงแรมเพื่อเดินทางไปเมือง Whittier ไปลงเรือสำราญที่เมืองนี้

การเดินทางจาก Anchorage มาที่ Whittier ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ระหว่างเดินทางมาเมืองนี้จะแวะ 2 จุดคือ จุดชมวิว และจุดแวะพักระหว่างทาง

จุดชมวิวระหว่างเดินทางมาเมือง Whitter พนักงานขับรถจะทำหน้าที่เป็นไกด์ไปด้วยให้เวลานักท่องเที่ยวถ่ายรูปที่จุดนี้เพียง 5 นาทีเท่านั้น ทำให้มีเวลาไม่มากนัก อีกทั้งลมพัดแรงมาก แถบตัวปลิว ทำให้ต้องรับถ่ายภาพและรีบขึ้นรถ

การเดินทางมาขึ้นเรือเจอสภาพอากาศไม่อำนวย ฝนตกหนักและลมแรง ทำให้ถ่ายรูปบรรยากาศบริเวณจุดขึ้นเรือลำบาก เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ลำนี้จุผู้โดยสารได้ราว 2,000 คน เรือลำใหญ่มาก แต่ยังมีเรือสำราญที่ลำใหญ่กว่านี้อีกและจุผู้โดยสารได้ถึง 5,000 คน สำหรับเรือสำราญที่พาเราล่อง Alaska ลำนี้ชื่อ Norwegian sun มีทั้งหมด 11 ชั้น ชั้นโดยสารเริ่มจากชั้น 4 – 7 เป็นห้องพัก และชั้น 8 -11 เป็นห้องพักมีระเบียง ห้องอาหารเริ่มที่ชั้น 5 – 7 และชั้น 11 การท่องเที่ยว Alaska ครั้งนี้ มีครอบครัวเรา 7 คน และอีกกลุ่ม 4 คน ที่เป็นคนไทย  นอกนั้นจะเป็นชาวต่างชาติ (ฝรั่งเป็นส่วนใหญ่) และมีอินเดีย จีน ญี่ปุ่น บ้าง

วันที่ได้ลงจากเรือเพื่อไปเที่ยวเมืองที่อยู่ระหว่างทาง เจอแดดสีสวย ฝนไม่ตก จึงได้เก็บภาพเรือมาฝาก เรือสำราญลำใหญ่ส่วนใหญ่จะมีเรือโดยสารลำเล็กสำหรับทยอยบรรทุกผู้โดยสารจากตัวเรือไปส่งยังเมืองต่างๆ เช่น เมือง Icy Strait Point เพราะเมืองนี้ไม่มีท่าเทียบเรือ และรอรับกลับ ส่วนเมือ
งอื่นๆ อย่าง Juneau – Skagway – Ketchikan เรือสามารถจอดเทียบท่าเรือ และนักท่องเที่ยวสามารถเดินลงจากเรือขึ้นฝั่งได้ทันที

บรรยากาศบนเรือ Norwegian sun ชั้น 11 ชั้นนี้จะเป็น Sun Deck / ดาดฟ้าเรือ และมีห้องอาหาร 2 ห้องคือ Garden Café และ Moderno Churrascaria มีสระว่ายน้ำ Oasis pool & Hot tubs, Sport Bars, Vedeo Arcade

ส่วนนี้เป็น Sport Bars

สระว่ายน้ำ Oasis pool & Hot tubs วันที่อากาศดี แดดแจ่ม ฟ้าใส

ชาวต่างชาติจะออกจากห้องพักหรือในเรือมาเล่นน้ำในสระ แช่จากุชชี่และนอนอาบแดดจนเต็มดาดฟ้าเรือ พวกเราคนไทยหนาวสะท้าน ต่างคิดกันว่า เล่นน้ำและว่ายน้ำในสระเข้าไปได้อย่างไร เพราะพอขึ้นจากสระก็จะเจอลมหนาว แค่เราเดินผ่านสระน้ำไปห้องอาหาร แม้ใส่เสื้อหนาวแล้วก็ยังต้องเดินห่อตัวและรีบเดินเพื่อหลบลมหนาว

เวลานี้ยังเช้าอยู่มาก บรรยากาศบริเวณสระน้ำจึงยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำ แช่น้ำในสระ

สักพักคนเต็มสระ และนอนอาบแดดบนดาดฟ้าเรือ

บนเรือมีสัญญาณ  Wifi ของ NCL ด้วยนะคะ เชื่อมต่อได้เร็วมาก แต่ต้องใส่ password ไม่ได้ให้ใช้ฟรี และราคา internet onboard บนเรือจะค่อนข้างแพง และจะมีบริเวณโล่งจัดเป็น counter internet ให้ใช้บริการ เท่าที่สังเกตดูตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเรือ ไม่เห็นชาวต่างชาติมาเช่าชั่วโมงเน็ตเลย และพวกเราก็ไม่เล่น รอลงจากเรือเพื่อไปเที่ยวเมืองต่างๆระหว่างทาง ค่อยไปหาสัญญาณ free wifi ในร้านค้า

ราคาเน็ตบนเรือ

วันไหนที่แดดแจ่ม ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสวยมาก รูปที่ถ่ายส่วนใหญ่เป็นสีธรรมชาติของฟ้าเวลานั้น ฟ้าสีฟ้าสวยสุดๆ จากดาดฟ้าเรือเป็นลานโล่ง เดินเล่นชมวิวสองฟากฝั่งที่เรือล่องผ่าน จะเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขา ท้องฟ้า และท้องน้ำ สวยสะดุดตา

เดินมาท้ายเรือเพื่อเก็บภาพ มองลงไปด้านล่างจะเป็นลานอาหารเปิดโล่ง รับลมเย็นและแดดใส มองไปไกลสุดสายตาบนท้องน้ำที่เรือเพิ่งวิ่งผ่านมา จะมองเห็นภูเขาไกลๆที่มีหิมะปกคลุมบนยอด

จากนั้นเดินมาถ่ายรูปบริเวณลานอาหารด้านล่าง

มาเดินเล่นที่ชั้น 6 กันบ้าง ชั้นนี้จะมี Bars & Entertainment  3 ห้อง คือ Stardust Lounge เป็นห้องที่พวกเราชอบมาก เพราะมีโชว์ระดับ Professional , Dazzles nightclub และ Windjammer Bar
ชั้นนี้จะมีระเบียงเดินเล่นได้รอบเรือ เป็นที่สำหรับชมวิวและ jogging track

ทางเดินโล่ง กว้าง เหมาะกับการเดินเล่นกินลมเย็นๆ และถ่ายภาพมาก

มองไปที่ท้องทะเลบ้างจะเห็นวิวสวยๆ และฟ้าสีฟ้าสด อย่างนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพกันมาก มาถ่ายภาพตรงนี้ และดาดฟ้า ไม่เหงาเลยค่ะ มีเพื่อนๆต่างชาติมาเก็บภาพเยอะมาก พวกเค้ามีกล้องระดับ Pro กันทั้งนั้น ซึ่งเจ้าของกระทู้ใช้กล้อง Mirrorless และ len 18-55 mm ดูแล้วเป็นเด็กไปเลยเมื่อเทียบกับกล้องเหล่านั้น

ปิดท้ายด้วยรูปท้องทะเล  ภูเขา และท้องฟ้า ที่เป็นสีฟ้าสวยๆ สดใส ดูแล้วสว่างตา สว่างใจ และยิ้มด้วยความสุขใจที่ได้ไปสัมผัสกับภาพประทับใจในการเที่ยว Alaska ครั้งนี้

like us4

Leave a comment