อินเดียเพลียๆ – เที่ยวในนิวเดลี ตอนที่ 4 (India Part4)

CaptureIndia4

[India, May2011]

Journeyaddict_in Africa

IN01

เนื่องจากเมื่อวานเราเหนื่อยกับการเดินทางและท่องเที่ยวมาพอสมควร วันนี้เราเลยขอตื่นสายกันสักหน่อยเพื่อชาร์ตพลัง เราพักกันที่โรงแรมจินเจอร์ โรงแรมในเครือ Tata Enterprise (Ginger Hotel – http://www.gingerhotels.com) ลักษณะโรงแรมนี้จะคล้ายๆกับ Tune Hotel ของ Air Asia เป็นอีกโรงแรมที่แนะนำ อยู่ใกล้ Metro ด้วย เดินไปไม่ไกลมาก แต่ระหว่างทางจะดูวุ่นวายหน่อยเพราะโรงแรมนี้อยู่ใกล้สถานีขนส่ง (ต้องเข้าใจอย่างว่าที่อินเดีย ถึงแม้ในแผนที่จะเห็นว่าใกล้กัน เดินได้ แต่ก็อาจจะเดินไม่ได้ เพราะสภาพถนนและทางเท้าที่ไม่อำนวย) สำหรับอาหารเช้า+เที่ยง เราฝากท้องกันที่ร้านอาหาร Comesum อยู่ชั้นที่ 1 ของโรงแรม (ร้านแฟรนไชส์เดียวกับร้านที่เรานั่งรอรถไฟกันที่อัครา แต่บรรยากาศดีกว่าเยอะเลย)

IN02โรงแรมจินเจอร์ (Ginger Hotel)

เราเดินเล่นข้างล่างโรงแรม ไปเจอมุมเล็กๆด้านหลังเป็น Travel Desk มีตารางราคาเช่ารถอยู่ น่าสนใจมาก เพราะมีแผนจะเที่ยวที่อักชาร์ดัม (Akshardham) และทัวร์ในเมืองเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตอนแรกกะจะไปด้วยรถไฟฟ้า (Metro) แต่หลังจากเห็นสภาพทางเข้า Metro (ที่จะแอบน่ากลัวนิดนึง) เลยคิดว่า ถ้าเหมารถไปเลยจะดีกว่าไหม เพราะสามารถไปส่งได้ถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้แบบไม่ต้องเดินไกลและไม่ต้องต่อรองกับรถแท๊กซี่ ตุ๊กๆ  เลยถามรายละเอียดกับพนักงานที่โต๊ะในการเหมารถเที่ยววันนี้ ราคาอยู่ที่ 1,250 รูปี/9ชม. มีคนขับรถให้ สำหรับการเช่ารถที่มี Contract กับโรงแรมจะดีอย่างคือ ลดโอกาสในการถูกโกงให้น้อยลง สบายใจกว่า

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาที่พักในนิวเดลี มีย่านฮิตๆที่นักท่องเที่ยวชอบไปพัก คือ ย่านพาฮากานจ์ (Paharganj) อยู่ติดกับสถานีรถไฟนิวเดลี เป็นประมาณถนนข้าวสารเมืองไทย ถนนเส้นนี้อัดแน่นไปด้วยที่พัก แต่ต้องเลือกหน่อยเพราะมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป

IN03หน้าตารถเช่าในวันนี้                 

IN04                      

จุดหมายที่แรกวันนี้ เรามากันที่อักชาร์ดัมเป็นศาสนสถานฮินดู ถ้าไม่ได้เช่ารถมาก็สามารถมาได้โดยรถไฟฟ้า เข้าไปด้านในอักชาร์ดัมจะมีด่านตรวจ เพราะเขาไม่ให้นำสิ่งของต้องห้ามเข้า เช่น กระเป๋า,คอมพิวเตอร์,อาหาร,กล้อง,มือถือ (ดังนั้นจะไม่มีรูปถ่ายด้านในเลย) ต้องฝากไว้ด้านหน้าทั้งหมด แล้วค่อยมารับตอนกลับ แต่ยังดีที่สามารถเอาน้ำเปล่าขวดใสเข้าได้ การเข้าชมอักชาร์ดัมนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เมื่อเข้าไปภายในถ้าต้องการชมอย่างอื่นเพิ่มเติมต้องจ่ายเพิ่ม แต่โชว์ของที่นี่ก็คุ้มมาก เขาทำออกมาได้ดีเลย มีทั้งหมด 3 โชว์หลักๆ ใน 3 Hall ใช้เวลาในการเข้าชมที่นี่ประมาณ 3-4 ชม.(ถ้าดูโชว์ด้วย) ด้านในถึงแม้เขาจะไม่ให้เอาอาหารเข้าไป แต่มีโรงอาหารให้ซื้อของกินได้ ราคาไม่แพงมาก เป็นสถานที่แนะนำถ้ามานิวเดลี

IN05อักชาร์ดัม (Akshardham) – รูปจากในเนตนะ

หลังจากจบการชมอักชาร์ดัมก็เกือบเย็นแล้ว เราจึงเดินทางกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง เพื่อเอาของที่ฝากไว้ที่ lobby ขึ้นรถไปด้วย จะได้ไปที่สถานีรถไฟตอนเย็นเลยไม่ต้องย้อนกลับมาอีก เราให้คนขับพาไปวนดูป้อมแดง (Red Fort) รอบนอก (แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเวลาไม่พอ) แวะประตูอินเดีย (India Gate) และ อาคารรัฐสภาอินเดีย (India Parliament House)

IN08

IN09

IN10

IN11

IN12

IN13

สำหรับในนิวเดลีจะเห็นมีรถเข็นขายน้ำมะนาวมากมาย เหมือนจะเป็นแฟรนไชส์ เพราะหน้าตารถเข็นเหมือนกันหมด และเขียนที่ข้างรถว่า Refreshment Water Trolly เลยขอลองชิมสักหน่อย ที่เห็นใส่มะนาวในแก้ว 3 ลูกนี่ จริงๆตอนเขาทำให้ เขาใส่แค่ลูกเดียวเองล่ะ -*-  น้ำเชื่อมก็หวานเฝื่อนมาก (เหมือนขัณฑสกร ยังไงก็ไม่รู้ หรือมันคือขัณฑสกร?) ไม่เย็นอีกต่างหาก (แล้วมันจะ refresh ยังไง) ที่นี่ตามร้านทั่วไป น้ำแข็งหายากมาก (แทบอยากจะเปิดโรงน้ำแข็ง) และตู้แช่เย็นส่วนใหญ่ เขาจะไม่นิยมเปิดให้เย็น บางที่ก็ปิดการให้ความเย็นไปเลย (งงเหมือนกันว่าแล้วเขาจะซื้อตู้แช่เย็นไว้ทำไม) สรุปชิมน้ำมะนาวเสร็จ (แต่ไม่ได้กินหมดนะ) เริ่มคิดว่าจะท้องเสียไหม ดังนั้นอาหารอะไรที่ไม่เคยกิน และดูไม่ปลอดภัย ก็ชิมๆเฉยๆ ไม่ต้องกินซะหมดนะค่ะ หึๆ

ระวัง! น้ำดื่มในอินเดีย

  • หลีกเลี่ยงน้ำแข็งที่คุณไม่รู้ว่ามันปลอดภัยไหม
  • อย่าดื่มน้ำจากก๊อกน้ำ
  • โปรดระวังน้ำดื่มหรือน้ำผลไม้ที่ขายตามท้องถนน เพราะแก้วหรือภาชนะที่ใส่อาจจะไม่สะอาด
  • ตรวจสอบซีลของขวดน้ำก่อนดื่มทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากจุดน้ำดื่มฟรีต่างๆ

IN14

ที่นี่เราจะได้ยินเสียงบีบแตรตลอดเวลาจนเหมือนจะเป็น วัฒนธรรมการขับรถในประเทศ โดยเฉพาะท้ายรถบรรทุกเกือบทุกคันจะมีเขียนว่า “Horn Please” “Blow Horn” (กรุณาบีบแตร) เป็นการเชื้อเชิญให้บีบแตรด้วยซ้ำ ส่วนรถยนต์ที่นิยมใช้กันมากก็คือ ทาทา (TATA) รถจะคันเล็กๆ ล้อเล็กๆ รอยบุบรอบคันเนื่องจากผ่านการใช้งานมาโชกโชน

เราเดินทางต่อมาที่สถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin) เป็นสถานีรถไฟสายเหนือ (เนื่องจากจองที่นั่งรถไฟขบวนที่ออกจากสถานีนิวเดลีไปอัมริตสาไม่ทัน เต็มซะก่อน) บรรยากาศที่สถานียังไม่ค่อยน่ากลัวมากนักเพราะยังสว่างอยู่  แต่พอมืดเท่านั้นแหละ บรรยากาศน่ากลัวทันที! ชาวต่างชาติแทบไม่มี เราไปถึงสถานีกันก่อนพอสมควร เลยยังไม่มีไฟวิ่งแจ้งรอบรถไฟที่เราขึ้น เราเข้าไปถามพนักงานที่สถานี ซึ่งมีช่อง Inquiry ให้ถาม ได้ความว่าเราต้องรถไฟที่ชานชาลาที่ 1

ตอนนั้นเงินสดในมือใกล้หมด เลยจะลองกด ATM ดู ตู้ที่นี่สภาพน่ากลัวพอควร ปรากฎกดแล้วเงินไม่ออก! (เฮ้ย!) เราเริ่มกังวลว่าตกลงมันตัดเงินไปหรือยัง หรือมีปัญหาอะไรไหม ดูรอบตู้อีกที อ้าว…ตู้นี้มันรับ visa นี่น่า บัตรเรามัน master card (ตอนหลังได้ไปอยู่ในเมืองอื่นแล้วเช็คเงินใน ATM เงินยังไม่ได้ถูกตัดไป) เลยเป็นข้อเตือนใจว่า ถ้าคุณจะกดเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจุดที่น่ากลัวๆหน่อย ต้องดูสภาพความน่าเชื่อถือของตู้ให้ดี รวมทั้งถ้าเป็นไปได้ควรลองกดดูก่อนสักส่วนหนึ่ง เพื่อดูว่ากดแล้วเงินออกมารึป่าว! เดี๋ยวจะเครียดป่าวๆ ส่วนบัตรเครดิตไม่แนะนำให้ใช้ที่อินเดีย เพราะยังไม่ปลอดภัยนัก หรืออาจจะใช้เฉพาะสถานที่ที่น่าเชื่อถืออย่างโรงแรมดังๆ

IN15ตู้ ATM ที่สถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin)

ด้านหน้าสถานีรถไฟมีร้านอาหาร Comesum (แฟรนไชส์เจ้าเดิม) ให้นั่งรอ ระหว่างนั่งรอในร้าน เขามีทีวีให้ดู ซึ่งเขาเปิดเป็นรายการเพลง พบว่านักร้องที่นี่นิยมร้องกันเป็นคู่ๆ คู่ชาย-หญิง แล้วเต้นกันเก่งมากในสไตล์อินเดีย เช่น เพลง Jee Karda [Singh is Kinng] (ลอง search เพลงนี้ใน you tube ได้) คือเต้นกันเป็นแผง หลายๆคน (เกาหลีต้องมาดูงานเลยทีเดียว) แล้วฉากใน MV อินเดีย จะนิยมใช้สถานที่ท่องเที่ยวประเทศต่างๆเป็นฉาก ประเทศไทยก็มีด้วย

ภายในร้านมีอาหารให้เลือกหลายอย่าง แต่รู้สึกเอียนเครื่องเทศ และ อาหารอินเดียแบบ original มาก เลยขอกินเป็นขนมปังแทน สังเกตจากทุกโต๊ะจะมีขวดน้ำขวดใหญ่ตั้งอยู่บนโต๊กันทุกคน เพราะที่นี่อากาศร้อนมาก ทุกคนแทบต้องพกน้ำคนละขวดตลอดเวลา เพราะเหงื่อออกจากตัวระเหยสู่บรรยากาศหมด

เราเดินไปดูป้ายไฟวิ่งเป็นระยะ ปรากฎว่ารถไฟขบวนเราจะ delay ไปประมาณ 1 ชม. เราไปนั่งรอที่ชานชาลา เพราะกลัวตกรถ รถไฟจะจอดที่นี่แค่ 30 นาที ด้านในสถานีรถไฟ ชาวอินเดียนอนรอรถไฟกันแบบจริงจังมาก เราพยายามยืนอยู่ในที่โล่งๆ ถือสัมภาระไว้ให้มั่นตลอดเวลา หันไปหันมาไม่มีคนต่างชาติเลย เด่นสุดในสถานี ในที่สุดรถไฟก็มาถึง ข้างขบวนจะมีหมายเลขบอก ซึ่งรถไฟขบวนที่เราจะขึ้นนี้ยาวมาก เป็น Sleeper Class (ตู้นอน 3 ชั้นไม่มีแอร์) สักประมาณ 80% ได้

IN16ภายในสถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin)

รถไฟที่เราจองเป็นแบบตู้นอนแอร์ 2 ชั้น สภาพนอนได้  มีห้องน้ำที่พอปล่อย ทุกข์เบาได้ แต่ทุกข์หนักคงจะลำบากหน่อย  มีอ่างล่างมือให้ล้างหน้า,แปรงฟัน  มีผ้าห่มที่ไม่รู้ห่มกันมากี่คนแล้ว คาดว่าคงจะตั้งแต่วันแรกที่รถไฟออกจากต้นทาง (ตึง!) คงประมาณ 2 วันที่แล้วได้ หึๆ แต่เขามีผ้าปูเตียงและหมอนใหม่มาแจกให้  ก่อนนอนเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน เราใช้โซ่ล่ามจักรยานที่พกมาด้วยล่ามกระเป๋าไว้กับเตียง พอเราเริ่มนอน แขกที่นอนฝั่งตรงข้ามก็เริ่มกรน กรนเสียงดังมาก (จนอยากสละหมอนไปอุด… (เอ๊ะ!) เราโหดไปไหม หึๆ)   แต่เราก็ยังหลับกันได้ ถึงแม้เสียงกรนจะดัง เพราะวันนี้เหนื่อยมาก

IN17เอาโซ่จักรยานที่พกมาด้วยล่ามกระเป๋าไว้

Journeyaddict_in Africa

One comment

Leave a comment