อินเดียเพลียๆ – ธิเบตพลัดถิ่นที่ดารัมศาลา ตอนที่ 6 (India Part6)

CaptureIdia6

[India, May2011]

IN01

วันนี้เราออกเดินทางจากอัมริตสา (Amritsar) แต่เช้าไปดารัมศาลา (Dharamshala) ด้วยรถเก๋งที่เหมามา คนขับหนุ่มคนเดิมกับที่พาเราไปเมืองแอทารี่ (Attari) เมื่อวาน ตอนแรกเรากะจะไปโดยรถโดยสารแต่คุณลุงแนะนำว่าใช้เวลานานมาก จอดเยอะ บางทีเดินทางเช้าถึงเย็น แต่ถ้าไปรถยนต์สามารถใช้เวลาเพียงครึ่งวัน เราจึงตัดสินใจไปโดยรถเช่าจะได้ประหยัดเวลา สำหรับคนที่จะเช่ารถ หารถเช่าได้ไม่ยาก อาจจะให้ที่โรงแรมติดต่อให้ เพราะปกติโรงแรมจะมี connection กับพวกรถเช่าอยู่แล้ว หรือตามหน้าสถานีรถไฟจะเยอะมาก

ปรากฏคนขับหนุ่มมารับเราพร้อมกับคุณลุงที่นั่งรถมาด้วยข้างหน้า คุณลุงจะไปกับเราด้วย (เมื่อวานอุตส่าห์ร่ำลาซะดิบดี) เราก็โอเคค่ะ เพราะที่ว่างอยู่แล้ว เราไปกันแค่ 2 คน คุณลุงนั่งข้างหน้า คนขับหนุ่มกับคุณลุงเป็นคู่ซี้ต่างวัยมาก เพราะเขาคุยนู้นนี้กันตลอดทาง (ซึ่งเราฟังไม่ออก) เราก็หลับตลอดทางเช่นกัน (ถ้ามาหลายคนจะประหยัดกว่า เพราะรถเช่านั้นเราเหมาทั้งคัน พอหารเฉลี่ยต่อคนออกมา จะรู้สึกว่าค่ารถต่อหัวแพงจัง) คุณลุงเล่าว่าเขาไปดารัมศาลาบ่อย บางทีก็ติดรถไปอย่างนี้นี่ล่ะ เขาถือว่าเขาพักผ่อนไปในตัว เพราะที่อัมริตสาร้อน แต่ที่ดารัมศาลาเย็นสบาย นักท่องเที่ยวก็ชอบเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษได้ดี เป็นไกด์ไปในตัว (เขาไม่ได้คิดเงินค่าไกด์เพิ่ม แต่เรามีให้คุณลุงเพิ่มเป็นทิปไป ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าคุณลุงเป็นคนขับสามล้ออยู่ดี คือคุณลุงเป็นคนที่มีศักยภาพในการเข้าถึงนักท่องเที่ยว, การแนะนำการเดินทาง และความรู้ในสถานที่ต่างๆดีทีเดียว)

พอประมาณ 8 โมง เริ่มหิว คนขับหนุ่มพาแวะกินอาหารข้างทาง อาหารหลักก็เหมือนเดิม คือ โรตี  ส่วนใหญ่ที่ร้านต้องมีฝาหม้อปิดไว้ตลอดเวลาเพราะแมลงวันวนเวียนอยู่ตลอด  ช้อน,ส้อม นี่ตอมกันเป็นเรื่องปกติ เครื่องเคียงหลักคือโยเกิร์ต ส่วนใหญ่เขาจะเป็นโยเกิร์ตทำเอง (นึกถึงเมืองไทยที่ร้านอาหารบางร้านจะมีโฆษณาว่าทำเอง เช่น ลูกชื้นทำเอง หมูบดทำเอง ทำให้คิดไปว่าแล้วมันสื่อกับผู้บริโภคว่าของนี้ดีจริงอย่างไร มันเป็นการยืนยันว่าอร่อย หรือสะอาด หรอ? แล้วทำเองแต่ไม่อร่อยได้ไหม?) โยเกิร์ตแก้เลียนได้ดีเหมือนกัน เอาน้ำตาลโรยหน่อยๆ จะได้ไม่เปรี้ยวเกิน (ดีที่คนไทยกินส้มตำ,น้ำตก อาหารรสจัดเป็นทุนเดิม คงไม่ท้องเสียกันง่ายๆ…ใช่ไหม?) โรตีที่ร้านนี้ไส้ในเป็นชีส ค่อนข้างเค็มทีเดียว ต้องกินคู่กับโยเกิร์ตจะได้ไม่เลี่ยนเกินไป

IN02บรรยากาศร้านอาหารข้างทาง    

IN03โยเกิร์ตที่ที่ร้านทำเอง homemade yoghurt

IN04โรตีไส้ชีส                                                        

IN05Maaza น้ำมะม่วง อร่อยๆ

เดินทางกันต่อจนถึงจุดพักระหว่างทาง เราแวะหาน้ำและขนมกิน เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่งนั่งพักอยู่ เขาขี่มอเตอร์ไซด์มาเอง (ถึกมาก) กำลังจะไปดารัมศาลาเหมือนกัน ระหว่างนั้นเราเกิดปวดห้องน้ำขึ่นมา ต้องแวะห้องน้ำสักหน่อย แต่เห็นห้องน้ำแล้วปวดใจ นี่มันห้องน้ำสยอง (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2) อีกแล้ว เป็นห้องน้ำที่แบบ ถ้าได้เป็นเจ้าของคงทำได้อย่างเดียวคือทุบทิ้ง (หลอนจริงๆ)

IN06มอเตอร์ไซด์นักเดินทาง                                  

IN07ทางเข้าห้องน้ำ (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2)

ระหว่างทางไต่เขาขึ้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมองเห็นเทือกเขาที่มีหิมะบ้าง รถขับถึงดารัมศาลาแล้ว แต่เราไม่ได้พักที่นี่ เราจะไปพักที่แมคกราว กันจ์ (Mcleod Ganj) หรือ ดารัมศาลาบน (Upper Dharamsala) ซึ่งเป็นแหล่งที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่า ที่นี่คนหนาแน่นมาก เริ่มเห็นคนหน้าตาจีนๆ เป็นเมืองในภูเขาที่เจริญทีเดียว ทั้งธนาคาร ทั้งตู้ATM เต็มไปหมดเลย ไม่ต้องกลัวไม่มีที่กดเงิน พอเข้าสู่ตลาดกลาง (Main Bazaar) นักท่องเที่ยวต่างชาติตรึม Guesthouseเพียบ ตอนแรกเรากะจะพักใกล้ Main Bazaar เพื่อมาเดินเล่น แต่คนขับและคุณลุงแนะนำไปพักด้านบนดีกว่าไม่แออัด

IN08ภายในเมืองแมคกราว กันจ์ (Mcleod Ganj)

คนขับรถที่นี่ ต้องชำนาญทางจริงๆ เพราะขึ้นเขาสูง ทางแคบ ไม่มีไหล่ทาง มีแต่เสียงแตรที่เขาบีบกันตลอดเวลา  คนขับพาเรามาพักที่โรงแรมอนันพาเลซ (Anand Palace) ในเครือ Best Western ราคารับได้อยู่  อากาศที่นี่ดีมาก เย็นๆสบายๆ ใกล้ๆโรงแรมมีร้านขายของอยู่ เดินเล่นได้ อาหารการกินที่นี่อุดมสมบูรณ์ดี

IN09บรรยากาศระหว่างทาง                                    

IN10ร้านขายผัก

 คุณลุงพาเดินมาที่สระน้ำสาธารณะ น่าเล่นมาก เป็นน้ำจากภูเขาเลย น้ำเย็นเจี๊ยบ แต่ไม่มีชุดว่ายน้ำ อีกทั้งมีแต่ผู้ชาย เดินมาเรื่อยๆจะเจอน้ำตกใหญ่ คุณลุงเหมือนอยากจะให้เราเดินไปน้ำตกด้านบน ลุงบอกว่าขึ้นไปเล่นน้ำตกก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเขารอ ซึ่งเป็นระยะทางเดินขึ้นเขากว่า 2 กม. เราทำอิดออด ไม่อยากเดิน (เพราะแค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว) …หิวข้าวแล้ว ไปหาอะไรกินกว่าดีกว่า แล้วก็ไม่เดินไปน้ำตกตามการคะยั้นคะยอของคุณลุง (อิๆ)         

IN11สระน้ำน้ำเย็นเจี๊ยบ

IN12น้ำตกใหญ่

จากนั้น ลุงพาเดินไปวัดฮินดูใกล้ๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายวัดธิเบตมาก เหมือนที่อัมริตสาเลยที่วัดฮินดู หน้าตาคล้ายวัดซิกส์ ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานว่า วัดฮินดูเมื่อไปอยู่ในชุมชนอื่นๆ สถาปัตยกรรมก็จะโน้มเอียงไปทางชุมชนนั้น

IN13ทางเข้าวัด                                      

IN14ด้านในวัด

IN15กินข้าวพอง หลังจากเข้าไปขอพรในวัด

เดินออกมาจากวัด มีคนขายไอศกรีม (ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาขายไอศกรีม จนคุณลุงบอก) ลุงบอกว่า เราต้องชิมนะ ไหนๆมาแล้ว ต้องเรียนรู้ จะได้เข้าถึง เราก็เอ้า ลองดูหน่อย คนขายตักไอศกรีมใส่ใบไม้  ควักจากกระปุกซ้ายมาส่วนหนึ่งใส่ใบไม้ ตามด้วยอีกก้อนจากกระปุกขวา ใช้ใบไม้เป็นช้อนตัก รสชาติจาก 2 กระปุกที่เขาตักมาไม่เหมือนกัน อันหนึ่งรสชาติคล้ายๆมะพร้าวเผา อีกอันหวานๆ คล้ายๆกะทิ สังขยา กินรวมๆกันแล้ว ก็อร่อยดี ราคา 10 รูปี แต่ความสะอาด….ไม่แน่ใจ (นี่..ฉันชิมไม่เลือกเลยใช่ไหมเนี่ย)

IN16ไอศกรีม ณ ดารัมศาลา                                          

IN17ชิมไอศกรีม

มาแวะกินอาหารที่ร้านของเพื่อนคนขับหนุ่ม ชื่อร้าน German Bakery แต่เจ้าของร้านเป็นชาวยิว (ซะงั้น) ร้านอยู่ใกล้ๆโรงแรมที่พักเราเลย เขาบอกเพื่อนเขาทำอาหารอร่อยมาก แล้วก็อร่อยจริงๆด้วย ราคาไม่แพง สรุปเรากินร้านนี้ เช้า-กลางวัน-เย็น เลย ได้ลองชิมอาหารธิเบต (ที่นี่มีอาหารอิสราเอลด้วย) เมนูหลักอาหารธิเบต คือ ทุปก้า (Thupka) เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ น้ำซุปอร่อย อีกจานคือ โมโม่ (Momo) หน้าตาคล้ายๆพวกขนมจีบ-ฮะเก๋า-เสี่ยวหลงเปา แต่แป้งจะหนากว่า ข้างในมีไส้ จิ้มกับน้ำจิ้มสีแดงๆที่มีรสชาติเผ็ดหน่อยๆ

IN18ร้านอาหาร German Bakery


IN19
ทุปก้า (Thupka)                                           

IN20โมโม่ (Momo)

ลุงพาเรามาตลาด Main Bazaar และให้เวลาเราในการเดินเล่น รวมถึงเดินไปที่วัดทสุลักคัง (Tsulagkhang Complex) เพราะรถเข้าไปยาก ต้องเดินเข้าไป

IN21หน้าไปรษณีย์ (แทบดูไม่ออกเลย)                     

IN22

IN23พระธิเบต       

IN24ความเจริญย่านกลางเมือง

IN25ร้านขายของที่ระลึกมีเต็มไปหมด                     

IN26บริเวณตลาด (Main Bazaar)

IN27วัดธิเบตระหว่างทาง    
IN28

เดินมาจนถึงวัดทสุลักคัง (Tsulagkhang Complex) และเป็นที่พักของท่านดาไลลามะด้วย ซึ่งช่วงนี้ท่านไม่อยู่ดราจึงไม่มีโอกาสได้พบท่าน ส่วนใหญ่ท่านจะมีไปบรรยายและปาฐกถา ตามประเทศต่างๆทั่วโลก ในด้านสันติภาพ ฯลฯ เราสามารถเช็คตารางงานของท่านได้จากเวบไซด์ www.dalailama.com ด้านหน้าวัดมีอนุสรณ์สถานแสดงถึงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวธิเบต และมีพิพิธภัณฑ์ธิเบต (Tibet Musuem) ให้เข้าชม  ภายในมีประวัติศาสตร์ของชนชาติธิเบต และเรื่องราวสมัยที่ธิเบตต่อสู้กับทางการจีนเพื่อประกาศอิสรภาพ (ปัจจุบันธิเบตยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน เป็นเขตปกครองตนเอง Tibet Autonomous Region) สมัยนั้นชาวธิเบตบางส่วนต้องลี้ภัย โดยเดินข้ามเทือกเขาหิมาลัย มาอยู่ที่อินเดีย ในเมืองที่อยู่ติดอินเดีย เช่น ในรัฐฮิมาจัลประเทศ (Himachal Pradesh) และ รัฐจัมมูและแคชเมียร์ (Jammu&Kashmir) ซึ่งท่านดาไล ลามะ ถูกเนรเทศออกนอกประเทศมาอยู่ที่นี่ เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ในพิพิธภัณฑ์มีภาพน่ากลัวอยู่ภาพหนึ่ง เป็นภาพเด็กชาวธิเบตเดินข้ามภูเขาหิมะมาจากจีน ถูกหิมะกัดจนเท้ากุดไปเลย (เฮือก!)

IN29อนุสรณ์สถาน           

IN30ชาวธิเบตลี้ภัยข้ามภูเขามาจากจีน

IN31การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์

 

IN32ภายในวัดธิเบต

IN33

IN34

IN35ขอทานด้านหน้าวัด

เราเดินกลับจากวัดมาขึ้นรถ คุณลุงพามาโบสถ์เก่าแก่ในดารัมศาลา ชื่อ โบสถ์เซนต์จอห์น (Church of St.John in the wilderness) ด้านในโบสถ์เก่าแก่จริง เป็นโบสถ์สไตล์ยุโรป บรรยากาศเงียบๆ อากาศเย็นๆ แล้วคุณลุงก็พาเดินไปด้านหลังที่เป็นสุสาน (วังเวงไปไหม?)

IN36โบสถ์เซนต์จอห์น (Church of St.John in the wilderness)

IN37

คุณลุงพาเราไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ณ ที่แห่งหนึ่งแถวๆนั้น (ไม่รู้พิกัดไหน เพราะรถขับข้ามเขาไปข้ามเขามา) เราแวะถ่ายรูประหว่างทางไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมาย คนขับจอดให้เราลงเดิน เป็นจุดในหลืบมากๆ ถ้าไม่ใช่คนท้องถิ่นไม่น่ารู้จัก เรานั่งรอแล้วรอเล่า ที่นี่มืดช้ามาก พระอาทิตย์ไม่ตกสักที สว่างอยู่เลย เลยเดินกันมาตรงป้ายรถ (คิดไหนใจ..แล้วมันมีรถผ่านด้วยหรอ เพราะมันในป่าในเขามาก ….แต่ก็คงมีแหละ) เราสั่งชาจากร้านชากาแฟตรงข้ามป้ายรถมานั่งกินรอพระอาทิตย์ตกดิน สักพักใหญ่ๆ คุณลุงบอกขึ้นรถกัน  (อ้าว! งง ไม่รอดูพระอาทิตย์ตกดินแล้วหรอ) ลุงจะพาไปอีกที่หนึ่ง

IN38ดินตามลุงไป                            

IN39ป้ายรถอันอ้างว้าง

IN40บรรยากาศระหว่างทาง                                      

IN41ดอกไม้เมืองหนาว

คุณลุงพามาจุดชมวิวจุดใหม่ ต้องขับรถมาในหุบเขาสักระยะ มาจอดที่หมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งใกล้ภูเขาหิมะมากมีเทือกเขาหิมะเป็นฉากหลังสวยมาก อากาศเย็นสบาย มีคนมารอชมพระอาทิตย์ตกดินพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นคนอินเดีย มองไปทางที่พระอาทิตย์ตกดินจะเป็นภูเขาที่ลาดลงไปกับพื้นสุดตา

IN42

IN43วิวสวยมาก แสงอาทิตย์สะท้อนกับหิมะเป็นสีส้มเลย

IN44พระอาทิตย์กำลังตกดิน

เราเดินทางกลับมาที่โรงแรม ผ่านตลาด (Main Bazaar)  โห…สีสันมากๆ ร้านค้าเปิดไฟกันสว่างไสว

เราแวะกินข้าวที่ร้านเดิมใกล้ๆโรงแรม สั่งซุปคลอโรฟิลล์มากิน เติมพลัง …(ไม่ช่ายยย) สั่งซุปผักโขมมา ซุปเขียวจนน่ากลัว แต่อร่อย ไม่เหม็นเขียวด้วย เห็นว่าเจ้าของร้านเป็นคนยิว เลยมีเมนูอาหารอิสราเอลด้วย เราเลยลองสั่งมาชิมสักหน่อย….รสชาติอร่อยเลย ให้เยอะมากด้วย กินเกือบไม่หมด ก่อนขึ้นห้องพัก เราแวะเล่นอินเตอร์เนตที่ lobby ชั้นล่าง ซึ่งเนตช้ามากแต่อย่างน้อยก็ได้ติดต่อกับโลกภายนอกบ้าง

IN45บรรยากาศตลาดยามค่ำคืน                               

IN46โรงแรมอนันพาเลซ (Anand Palace)

IN47ซุปผักโขม

IN48

IN49อาหารอิสราเอล

Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s